การนั่งทำงานนานๆ สิ่งสำคัญก็คือท่านั่งที่เหมาะสม และเก้าอี้ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญมากในเรื่องนี้ ทำให้ปัจจุบันมีเก้าอี้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เก้าอี้สำนักงานทั่วไป ไปจนถึงเก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ ที่หลายคนอาจยังสงสัยอยู่ว่า เก้าอี้ทั้ง 2 แบบนั้นแตกต่างกันยังไง บทความนี้จึงจะมาอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างเก้าอี้สำนักงานทั่วไป และเก้าอี้เพื่อสุขภาพ ให้ได้ทำความเข้าใจกัน
เก้าอี้สำนักงาน คืออะไร?
เก้าอี้สำนักงาน (Task chair) คือ เก้าอี้ที่เอาไว้ใช้งานในสำนักงาน ลักษณะทั่วไปคือมีล้อเลื่อนและมีพนักพิงหลัง ฐานรองนั่งมักจะหมุนได้ รองรับการเคลื่อนที่ในระยะใกล้ของพนักงาน เวลาที่ต้องการหยิบข้าวของบริเวณใกล้ๆ ก็สามารถเลื่อนเก้าอี้และหมุนตัวได้เลยโดยไม่ต้องลุกจากเก้าอี้ เก้าอี้สำนักงานทั่วไป ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในสำนักงาน แต่ไม่ได้คำนึงเรื่องของการรองรับสรีระหรือสุขภาพมากนัก และอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาเมื่อต้องนั่งต่อเนื่องเป็นเวลานาน
เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ คืออะไร?
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจถึงคำว่า “Ergonomics” กันก่อน โดย Ergonomics คือ การยศาสตร์ ที่หมายถึง การศาสตร์กับกายศาสตร์รวมกัน เป็นเรื่องของการจัดการและปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับคนทำงาน ซึ่งยังรวมถึงการปรับสรีระของร่างกาย เพื่อให้ทำงานได้อย่างสะดวกสบาย
ดังนั้น Ergonomic Chair หรือ เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ จึงเป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการปฏิบัติงานหรือเหมาะกับสรีระของร่างกายในระหว่างทำงาน ซึ่ง Ergonomic chair จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เข้ากับการทำงานระหว่างวันมากกว่าเก้าอี้สำนักงานทั่วไป
เปรียบเทียบเก้าอี้สำนักงานทั่วไป VS เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ
มาถึงข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างเก้าอี้สำนักงานทั่วไป VS เก้าอี้เพื่อสุขภาพ ตั้งแต่ความเหมือนไปจนถึงความแตกต่างระหว่างเก้าอี้ทั้ง 2 แบบ
ความเหมือนกัน
แม้ว่าเก้าอี้สำนักงานและ Ergonomic chair จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีส่วนที่เหมือนกันบางอย่างอยู่ โดยทั้ง 2 แบบเป็นเก้าอี้ที่มักใช้ในสำนักงานเหมือนกัน เอื้อต่อการทำงานในสำนักงานเช่นเดียวกัน ลักษณะที่เหมือนกันคือมีล้อเลื่อน และมีฐานนั่งที่สามารถหมุนได้ อีกทั้งยังมีพนักพิงเหมือนกัน
สรุปสิ่งที่เหมือนกัน
- มีล้อเลื่อน
- ฐานนั่งหมุนได้
- มีพนักพิง
ความแตกต่าง
ขณะเดียวกันเก้าอี้สำนักงานทั่วไปและเก้าอี้ทำงานสุขภาพ ก็มีส่วนที่แตกต่างหลายอย่าง หลักๆ เลยคือการรองรับกับสรีระของร่างกายในระหว่างทำงาน ดังนี้
1.พนักพิง
เก้าอี้สำนักงานทั่วไป มีพนักพิงรองรับแต่อาจไม่ได้ออกแบบพิเศษเพื่อให้รองรับกับสรีระมากนัก แต่ใช้พิงหลังลดอาการเมื่อยล้าได้ในระดับที่พอดี แต่ถ้าหากเป็นเก้าอี้สุขภาพ พนักพิงจะมีการคัดสรรวัสดุที่รองรับกับสรีระมากกว่า ทำให้รู้สึกสบายกว่าเก้าอี้สำนักงานทั่วไป พนักพิงของเก้าอี้ จะมีการใช้วัสดุที่ระบายความร้อนได้ดี และอาจมีการออกแบบร่องต่างๆ เพื่อให้รองรับแผ่นหลังและกระดูกสันหลัง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในเรื่องของการกระจายน้ำหนัก เพื่อลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังและเอว
2.ที่วางแขน
เก้าอี้สำนักงานทั่วไปอาจมีที่วางแขนหรือไม่มี แต่ถ้าเป็นเก้าอี้เพื่อสุขภาพ มักมีที่รองแขนรองรับเสมอ เพื่อการนั่งในท่าที่เหมาะสม และดีต่อสุขภาพในระยะยาว ไม่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและไหล่มากเกินไป ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ซึ่งดีต่อกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ ที่เป็นปัญหาสุขภาพในกลุ่มคนทำงานค่อนข้างมาก
3.ที่รองศีรษะ
เก้าอี้สำนักงานทั่วไปอาจไม่มีที่รองศีรษะให้ พนักพิงอาจสูงถึงไหล่ไม่เลยขึ้นไปถึงศีรษะ แต่ถ้าเป็น Ergonomic chair มักจะออกแบบพนักพิงมาให้มีที่รองศีรษะด้วย และที่รองศีรษะออกแบบให้มีความเว้าหรือความโค้ง เพื่อให้รองรับกับศีรษะได้ดี สามารถพิงหลังและศีรษะได้ระหว่างนั่งทำงาน แก้ปัญหาหน้ายื่นเข้าไปใกล้จอและทำให้กล้ามเนื้อมีปัญหาในลักษณะไหล่ห่อคอยื่น ที่จะทำให้ปวดคอ บ่า ไหล่
4.ฐานรองนั่ง
ฐานรองนั่งของเก้าอี้สำนักงานทั่วไปและเก้าอี้เพื่อสุขภาพ สามารถหมุนได้ทั้ง 2 แบบ แต่วัสดุที่ใช้รองรับน้ำหนักอาจแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีการออกแบบที่แตกต่างกัน หากเป็นเก้าอี้สำนักงานทั่วไป อาจรองรับการนั่งด้วยฟองน้ำธรรมดา และถ้าเป็นเก้าอี้สุขภาพ อาจเลือกใช้วัสดุที่ช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี เช่น เมมโมรี่โฟม เป็นต้น เพื่อลดอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากการนั่งนาน และอาจมีการออกแบบส่วนโค้งเว้าที่รองรับสรีระได้ดีกว่า
5.ล้อเลื่อน
เก้าอี้เพื่อสุขภาพ ที่คำนึงถึงความเหมาะสมกับคนทำงานระหว่างปฏิบัติงาน ล้อเลื่อนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทำให้การออกแบบเก้าอี้คำนึงถึงด้วยเช่นกัน ล้อเลื่อนเก้าอี้สำนักงานทั่วไป อาจมีปัญหาติดขัดไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แต่ถ้าหากเป็น Ergonomic chair อาจมีการใช้ล้อเลื่อนที่มีคุณภาพมากกว่า เช่น ล้อโรลเลอร์เบลด ที่ปัจจุบันมีการนำมาใช้ในเก้าอี้สำนักงานอย่างแพร่หลาย ซึ่งล้อโรลเลอร์เบลดจะค่อนข้างลื่นไหล ทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว และไม่ต้องออกแรงบริเวณเอวมากเกินไป ทั้งยังปลอดภัยสำหรับทุกพื้น ช่วยถนอมพื้นไม้เนื้อแข็งไม่ให้ถูกทำลายได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความแตกต่างระหว่างเก้าอี้สำนักงานทั่วไป และเก้าอี้ทำงาน Ergonomic เพื่อสุขภาพ หลักๆ เลยก็จะเป็นเรื่องของการดีไซน์ที่รองรับสรีระที่แตกต่างกัน เก้าอี้สำนักงานทั่วไปไม่ได้คำนึงถึงการรองรับสรีระมากนัก เพียงแค่เป็นเก้าอี้รองนั่งและมีล้อเลื่อน แต่เก้าอี้สุขภาพ จะออกแบบให้รองรับกับสรีระมากๆ ทั้งแผ่นหลัง ที่รองแขน และรองศีรษะ เพื่อให้การนั่งนั้นดีต่อสุขภาพมากที่สุด สำหรับใครที่กำลังมองหาเก้าอี้เพื่อสุขภาพ แนะนำให้เลือกสินค้าที่มีการรับประกันสินค้า 3 ปีเป็นอย่างต่ำจะดีที่สุด เพราะเก้าอี้ มีราคาสูง จึงควรใช้งานได้นานกว่าเก้าอี้สำนักงานทั่วไป
