รู้หรือไม่? เก้าอี้สำนักงานทั่วไป อาจทำให้ปวดหลังได้

หากพูดถึงอาการปวดเมื่อยของคนทำงานออฟฟิศ แน่นอนว่าหลายคนคงเคยประสบกับตัวเองมาแล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าเก้าอี้สำนักงานก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดเหล่านั้น แม้ว่าจะเป็นเก้าอี้+ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานในออฟฟิศก็ตาม แต่บางครั้งอาการปวดก็มาจากเก้าอี้ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือบางครั้งก็มาจากการปรับระดับเก้าอี้ที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง ทำให้ปัจจุบันมีทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมกว่านั่นก็คือ เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ ที่ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้

เหตุผลที่เก้าอี้สำนักงานทั่วไปทำให้ปวดหลัง

เก้าอี้สำนักงานที่ถูกออกแบบมาไม่รองรับกับสรีระมากนัก ทำให้ปวดหลัง ซึ่งมาจากสาเหตุ ดังนี้

1.เบาะรองนั่งไม่กระจายน้ำหนัก

เก้าอี้สำนักงานมักมีปัญหาในเรื่องของเบาะรองนั่งที่ออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้ไม่ดีพอ คือไม่มีการกระจายน้ำหนักที่เหมาะสม ด้วยวัสดุที่ขาดคุณสมบัติในเรื่องนั้น รวมถึงรูปทรงของเบาะรองนั่ง ที่อาจไม่ได้ทำส่วนเว้าโค้งที่เหมาะสมไว้ เมื่อเกิดการกระจายน้ำหนักได้ไม่ดีพอ ก็ทำให้เกิดการกดทับที่ไม่ดีและนำไปสู่อาการปวดเมื่อยสะสมได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหลัง

2.พนักพิงไม่ออกแบบให้รองรับกับแผ่นหลังที่ดีพอ

พนักพิงของเก้าอี้สำนักงานทั่วๆไป มักมีปัญหาในเรื่องของการออกแบบที่ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ทำให้การรองรับกับแผ่นหลังไม่มีการกระจายน้ำหนัก และเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ หากเกร็งต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ปวดหลัง และอาจส่งผลไปถึงหมอนรองกระดูก ที่จะทำให้เกิดโรคร้ายตามมาได้ด้วย

3.พนักพิงปรับเอนไม่ได้

เมื่อนั่งนานถ้าหากต้องนั่งหลังตรงต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ กล้ามเนื้อย่อมเกิดการเกร็งตัวและทำให้ปวดเมื่อยตามมา ความรู้สึกระหว่างหลังนั่งตรงติดต่อกัน จะเหมือนกับพนักเก้าอี้ดันหลังไว้ และนั่นควรได้รับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อโดยการเอนหลัง เพื่อกล้ามเนื้อหลังและสะโพกเกิดการคลายตัว และอาจรวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณสะบักด้วย แต่เพราะพนักพิงเก้าอี้สำนักงานทั่วไป ไม่ถูกออกแบบให้สามารถเอนหลังได้ จึงทำให้ปวดหลังตามมา

4.ที่วางแขนปรับระดับไม่ได้

ที่วางแขนก็เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน ปกติแล้วการนั่งในท่าที่เหมาะสม ที่จะทำให้ไม่ปวดหลัง จะต้องปรับระดับแขนให้พอดี หากต่ำไปหรือสูงไป จะทำให้ต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ไปจนถึงสะบัก เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกร็งตัวเป็นเวลานานจนหดเกร็ง จะทำให้ปวดหลังตามมา เพราะเหตุนี้ทำให้เก้าอี้สำนักงานทั่วๆไป ที่ไม่สามารถปรับระดับที่วางแขนได้ เป็นสาเหตุของอาการปวดหลัง

5.ที่รองศีรษะไม่โค้งเว้ารับกับรูปศีรษะ

เก้าอี้สำนักงานทั่วๆไปไม่มีที่รองศีรษะให้ เพราะพนักพิงสูงแค่หัวไหล่ แต่บางรุ่นต่อให้มีที่รองศีรษะให้แต่ก็ออกแบบมาได้ไม่ดี ทำให้เวลาพิงศีรษะนานๆ จะรู้สึกเหมือนพนักพิงดันศรีษะกลับ และนั่นจะทำให้ปวดคอและหลังตามมา เพราะจะเกิดอาการเกร็ง นอกจากปวดคอและหลังยังทำให้ปวดศีรษะได้อีกด้วย

เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ ทางเลือกใหม่จริงหรือ?

จากที่กล่าวมาในข้างต้นจะเห็นว่าเก้าอี้สำนักงาน ออกแบบมาไม่ดีนัก ไม่รองรับกับสรีระในขณะที่ต้องนั่งนาน ทำให้มีทางเลือกใหม่ที่เรียกว่าเก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะออกแบบให้รองรับกับสรีระ เอื้อต่อการนั่งที่ถูกท่ามากที่สุด ดังนี้

1.เบาะรองนั่งที่กระจายน้ำหนักได้ดี

เบาะรองนั่งของเก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ มีการใช้วัสดุที่ช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี เช่น เมมโมรี่โฟม เป็นต้น เพื่อลดอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากการนั่งนาน และอาจมีการออกแบบส่วนโค้งเว้าที่รองรับสรีระได้ดีกว่า ทำให้กล้ามเนื้อสะโพกและหลังไม่ต้องรับน้ำหนักกันเองมากเกินไป ช่วยป้องกันอาการเสื่อมของหมอนรองกระดูกได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดหลัง

2.พนักพิงรองรับกับแผ่นหลังได้ดีกว่า

เก้าอี้สำนักงานทั่วๆไป มีพนักพิงรองรับเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถพิงหลังได้ จะได้ไม่ต้องนั่งหลังตรงตลอดเวลา แต่อาจไม่ได้ออกแบบพิเศษเพื่อให้รองรับกับสรีระมากนัก ขณะที่เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ จะคัดสรรวัสดุมาผลิตพนักพิงที่รองรับกับสรีระมากกว่า มีการออกแบบร่องต่างๆ เพื่อให้รองรับแผ่นหลังและกระดูกสันหลัง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในเรื่องของการกระจายน้ำหนัก เพื่อลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังและเอว ทั้งยังมีการใช้วัสดุที่ระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย

3.พนักพิงปรับเอนได้

หากเป็นเก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ พนักพิงจะถูกออกแบบมาให้สามารถปรับเอนหลังได้ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยระหว่างวันได้ ไม่ต้องนั่งเกร็งอยู่ในท่าเดิมทั้งวัน ทำให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหลังและสะบัก

4.ที่วางแขนปรับระดับได้

เก้าอี้สำนักงานอาจมีที่วางแขนหรือไม่มี แต่ถ้าเป็นเก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพมักมีที่รองแขนรองรับเสมอ อีกทั้งยังเป็นที่วางแขนที่สามารถปรับระดับได้ เพื่อการนั่งในท่าที่เหมาะสม และดีต่อสุขภาพในระยะยาว ไม่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและไหล่มากเกินไป ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ซึ่งดีต่อกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ ที่เป็นปัญหาสุขภาพในกลุ่มคนทำงานค่อนข้างมาก

5.ที่รองศีรษะ

เก้าอี้สำนักงานอาจไม่มีที่รองศีรษะให้ พนักพิงอาจสูงถึงไหล่ไม่เลยขึ้นไปถึงศีรษะ แต่ถ้าเป็นเก้าอี้ Ergonomic มักจะออกแบบพนักพิงมาให้มีที่รองศีรษะด้วย และที่รองศีรษะออกแบบให้มีความเว้าหรือความโค้ง เพื่อให้รองรับกับศีรษะได้ดี สามารถพิงหลังและศีรษะได้ระหว่างนั่งทำงาน แก้ปัญหาหน้ายื่นเข้าไปใกล้จอและทำให้กล้ามเนื้อมีปัญหาในลักษณะไหล่ห่อคอยื่น ที่จะทำให้ปวดคอ บ่า ไหล่

เก้าอี้สำนักงาน อาจออกแบบมาทำสำหรับคนทำงานก็จริง แต่ไม่ได้คำนึงถึงสรีระเท่าที่ควร เพียงแค่รองนั่งระหว่างวันในขณะทำงานได้ แต่เมื่อนั่งไปนานๆ ปัญหาก็จะตามมาโดยเฉพาะอาการปวดหลัง ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วย เก้าอี้ Ergonomic เพื่อสุขภาพ ที่ผ่านการออกแบบมาเพื่อให้รองรับกับสรีระทุกจุด ช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้จริง รองรับการนั่งนานแต่ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม