มนุษย์ออฟฟิศมักมีปัญหาสุขภาพจากพฤติกรรมแย่ๆ หลายอย่างด้วยกัน ที่สามารถปรับได้ เพียงแต่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลเสียมากมายต่อสุขภาพ หรือบางคนก็อาจไม่รู้ตัวว่าทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ โดยพฤติกรรมไม่ดี ที่นำมาฝากครั้งนี้ เป็นพฤติกรรมตัวอย่างที่ไม่ดี 5 พฤติกรรมด้วยกัน ได้แก่
1.นั่งนาน 
พฤติกรรมแรกที่พบบ่อยในที่ทำงานของมนุษย์ออฟฟิศ ก็คือพฤติกรรมนั่งนาน แน่นอนว่าพนักงานออฟฟิศหลายคนต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และก็ต้องนั่งในท่าเดิมเกือบทั้งวัน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เสมอไปเพราะสามารถปรับพฤติกรรมได้เช่นกัน โดยการลุกขึ้นเดินบ้าง เช่น การลุกไปเข้าห้องน้ำก็ช่วยได้ เนื่องจากพบว่ามีมนุษย์ออฟฟิศบางคนเป็นโรคขี้เกียจเดิน ไม่อยากลุกไปเข้าห้องน้ำ ทำให้ไม่ยอมกินน้ำ ซึ่งการดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอต่อวัน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะจะทำให้ไตทำงานหนัก ทั้งยังมีโอกาสติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ง่าย และเป็นนิ่วได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ยังพบอีกว่าบางคนกลั้นปัสสาวะ เพราะขี้เกียจเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งจะทำให้เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ด้วย และการนั่งนานไม่ยอมลุกไปไหนเลย ยังทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ง่ายขึ้น เพราะกล้ามเนื้อจะหดเกร็ง และเป็นอันตรายได้หากมีอาการเรื้อรัง เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทได้ด้วย
ข้อแนะนำคือควรลุกเดินทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ว่าจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ลุกไปกดน้ำดื่ม หรือลุกเดินเพื่อผ่อนคลายเฉยๆ ก็ได้ อย่านั่งติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป ซึ่งเป็นหนึ่งในพฤติกรรม ที่ทำลายสุขภาพมนุษย์ออฟฟิศ ส่วนท่านั่งนั้นก็สำคัญเช่นกัน ควรนั่งในท่าที่เหมาะสมด้วย โดยเรื่องนี้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพช่วยได้โดยการปรับระดับให้เหมาะสมกับท่านั่งที่ดี
2.นอนดึก
พฤติกรรมแย่ๆ อีกหนึ่งอย่างของมนุษย์ออฟฟิศก็คือนอนดึก อาจด้วยสาเหตุที่บางคนกว่าจะเดินทางกลับถึงบ้านหรือที่พักก็มืดค่ำแล้ว เหลือเวลาทำธุระส่วนตัวไม่มาก จึงนอนดึก หรือบางคนก็อาจใช้เวลาไปกับการพักผ่อนในช่วงเวลาอันน้อยนิด ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูซีรีย์และอื่นๆ ทำให้นอนดึกและพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ เพราะในเช้าวันต่อไปก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานให้ทันเวลา จึงถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้ยังพบว่าบางรายไม่ได้นอนดึกเพราะเดินทางกลับถึงที่พักมืดเกินไป แต่เป็นการนอนดึกเพราะ Hang out เป็นประจำ ถือเป็นพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยนโดยเร็ว
เนื่องจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ไม่กระปรี้ประเปร่าในวันต่อไป และไม่มีสมาธิสำหรับทำงาน สมองไม่ปลอดโปร่ง และอาจทำให้เกิดความเครียด หงุดหงิดง่าย เป็นอาการที่ทำลายสุขภาพได้ในระยะยาว ถ้าหากพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกัน
3.ไม่ออกกำลังกาย
สิ่งหนึ่งที่พบในมนุษย์ออฟฟิศคือการไม่ออกกำลังกาย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ยิ่งในคนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ต้องนั่งนานๆ จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ทั้งในเรื่องของน้ำหนักส่วนเกิน เพราะไม่ได้ขยับตัวไปไหน อีกทั้งยังเป็นปัญหาในเรื่องของอาการปวดเมื่อยและโรคออฟฟิศซินโดรม ซึ่งปัญหาเหล่านี้การออกกำลังกายช่วยได้ ทั้งช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมในส่วนต่างๆ และยังช่วยยืดกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกกำลังกายยังช่วยควบคุมระดับของฮอร์โมนให้สมดุล จึงช่วยเรื่องอารมณ์ได้ ช่วยชะลอการเกิดความเครียดระหว่างทำงานได้
ดังนั้นการไม่ออกกำลังกายจึงเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีนักสำหรับมนุษย์ออฟฟิศทั้งหลาย ข้อแนะนำคือควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อควบคุมน้ำหนักและยืดกล้ามเนื้อที่หดเกร็งทุกวันให้ผ่อนคลายขึ้น ลดความเสี่ยงอาการออฟฟิศซินโดรมได้ อีกทั้งยังช่วยเรื่องของอารมณ์อีกด้วย
4.กินอาหารไม่ครบมื้อ
อีกหนึ่งพฤติกรรม ทำลายมนุษย์ออฟฟิศก็คือการรับประทานอาหารไม่ครบมื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าอาจด้วยเหตุผลของความเร่งรีบ ทำให้รับประทานมื้อเช้าได้ไม่ทันการ หลายคนเลือกดื่มกาแฟแก้วเดียวแทนมื้อเช้า ซึ่งการไม่ทานมื้อเช้าทำให้เกิดผลเสียหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วนที่ถึงแม้หลายคนจะคิดว่ากินน้อยก็จริง
แต่การอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายจะต้องการของหวานมากขึ้น และอาจทดแทนด้วยของหวานเกินพอดี อีกทั้งมื้อเช้ายังช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานให้กับสมอง ทำให้สมองปลอดโปร่ง ทำงานลื่นไหล และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตรงกันข้ามหากไม่รับประทานมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายไม่สดชื่น และเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา
5.นั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม
พฤติกรรมทำลายสุขภาพมนุษย์ออฟฟิศที่พบบ่อยมาก ก็คือการนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ว่าพนักงานออฟฟิศมักจะนั่งนาน ยิ่งถ้านั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อในระยะยาว ท่านั่งที่ไม่เหมาะสมของพนักงานออฟฟิศ ที่มักเจอบ่อย ได้แก่ ท่าไหล่ห่อคอยื่น ซึ่งมองผิวเผินจะคิดว่าแค่เสียบุคลิกเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วการนั่งท่านี้นานๆ ส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว ทำให้ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง
รวมถึงท่านั่งในลักษณะที่สะโพกไม่ติดกับพนักพิงเก้าอี้ หรือนั่งเก้าอี้ไม่เต็มก้น จะทำให้หมอนรองกระดูกถูกกดทับและรับน้ำหนักเอาไว้มากเกินไป อาจทำให้เกิดการเสื่อมและเคลื่อนที่ได้ ซึ่งเป็นผลเสียร้ายแรงตามมาในภายหลัง หรือการนั่งเก้าอี้ที่สูงเกินไป ทำให้ต้องก้มหน้ามองหน้าจอเป็นเวลานานจนปวดคอ บ่า และไหล่ รวมถึงอาจปวดศีรษะได้ด้วย หรือถ้าหากนั่งเก้าอี้ต่ำเกินไป จะทำให้ต้องยกแขนสูงเพื่อพิมพ์คีบอร์ด จึงเกิดการเกร็งหัวไหล่และสะบัก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวด หากเป็นเก้าอี้ที่ใช้งานเป็นเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ แนะนำให้ปรับระดับให้พอดี ก็จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ และ บริหารร่างกายเพื่อลดการเกิดปัญหาออฟฟิศซินโดรม
ผ่านไปแล้วกับ 5 พฤติกรรมแย่ๆ ที่ทำลายสุขภาพมนุษย์ออฟฟิศทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้ส่งผลเสียระยะยาว ควรปรับเปลี่ยนเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่จะสายไป เพราะหลายพฤติกรรมส่งผลเสียรุนแรงมากกว่าที่คิด
สนใจสามารถ ทดลองนั่ง Adam Dot.1 ได้ที่โชว์รูม Dreams Town ทั้ง13 สาขา และดูโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่Facebook: AdamErgonomicChair
